Showing 661–672 of 751 results


ความแตกต่างของ คราฟเบียร์ แต่ละสไตล์

     เบียร์แต่ละสไตล์ จะมีรายละเอียดของเบียร์ที่แตกต่างกันไป บางสไตล์ขมน้อย บางสไตล์บอดี้บางและน้ำเบียร์ใส บางสไตล์หวาน บางสไตล์ก็ขมมาก สำหรับผู้ที่เคยดื่ม คราฟเบียร์ มาบ้างแล้วก็คงจะเลือกได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับท่านใดที่อาจจะยังไม่คุ้นเคย ก็สามารถอ่านข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลยครับ วันนี้ผมจะอธิบายรายละเอียดคร่าวๆ ให้ทุกท่านได้รู้จักเบียร์แต่ละสไตล์กัน

คราฟเบียร์

Craft Beer หลากหลายสไตล์

Blonde Ale

     เบียร์ตัวนี้เป็นเบียร์ที่ดื่มง่ายมากๆ แถมมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นก็คือการ balance ระหว่างมอลต์กับฮอปส์ บางครั้งก็เรียกว่า Golden Ale หรือบางคนก็เรียกว่า Summer Ale เป็น เบียร์ ที่มีสีอ่อนมากตามชื่อ รสขมน้อยถึงปานกลาง มีกลิ่นหอมของฮ็อป มีรสหวานของมอลต์ เจือด้วยรสผลไม้ ขมน้อย ดื่มสบาย

Dark Ale

     เป็นเบียร์ที่มีสีคล้ำไปจนถึงดำสนิท ชนิดที่ว่าแสงผ่านไม่ได้ สามารถได้กลิ่นของใส่วัตถุดิบที่เป็น ถั่ว, กาแฟ, โกโก้, วนิลา, กลิ่นข้าวคั่วไหม้ ซึ่งก็แล้วแต่ brewer แต่ละคนจะเลือกใส่ ส่วนมากเนื้อเบียร์จะแน่น บางยี่ห้อขมมาก บางยี่ห้อขมน้อย เหมาะกับการดื่มในวันที่อากาศเย็นๆ

Double IPA

     เป็นเบียร์ที่แรงกว่า IPA ขึ้นมาอีกขั้นนึง แรงกว่าทั้งในเรื่องของดีกรีแอลกอฮอล์ แรงกว่าในเรื่องกลิ่นฮอปส์ และแรงกว่าในเรื่องของความขม เป็นเบียร์ที่ถูกใจสายแข็งเป็นอย่างมาก ระดับแอลกอฮอล์ไม่มีต่ำกว่า 7.0% สีเข้มข้นเนื่องจากใส่คาราเมลมอลต์ บอดี้หนาแน่น กลิ่นฮอปส์ทะลุแก้ว

คราฟเบียร์ สไตล์ English Ale

     เป็นเบียร์ทางฝั่งอังกฤษ โดยจะตรงข้ามกับ Pale Ale ทุกประการคือ เน้นกลิ่นมอลต์ เน้นหนักไปทางกลิ่นข้าวบาร์เลย์ ไม่เน้นกลิ่นฮอปส์เลยแม้แต่นิดเดียว ใส่ข้าวสายพันธุ์พิเศษเข้าไปเพื่อแต่งกลิ่น รสชาติหวานนิดหน่อย ดื่มง่าย เหมาะกับนักดื่มบางท่านที่ไม่ชอบเบียร์ขม หรือเบียร์สายฮอปส์ ก็สามารถหันหน้าเข้าหาสไตล์นี้ได้เลย

     เบียร์ที่มีกลิ่นมอลต์หนักๆ ก็จะเป็น English Bitter หรือ Bitter บางคนก็เรียก ESB บางคนก็เรียก Best Bitter ก็ตามแต่เลย ถ้าคุณสังเกตุดีๆมันมีคำว่า Bitter อยู่ในประโยคแต่มันไม่ได้ขมตามชื่อของมัน (เหมือนฝรั่งบอกเผ็ดแต่คนไทยบอกไม่เผ็ดอ่ะแหละ)

คราฟเบียร์ สไตล์ IPA

     เป็นเบียร์ขั้นกว่าของ Pale Ale ซึ่งจะมีความขมมากกว่า มีความหอมกลิ่นฮอปส์มากกว่า มีสีที่เข้มกว่า บอดี้ที่หนากว่า พร้อมกับแอลกอฮอล์ที่สูงกว่า ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบดื่ม IPA เพราะรู้สึก "ถึงของ" ดื่มเพียง 3 ขวดก็สามารถนอนหลับได้สบายๆ "Hoppy Made My Day"

     เบียร์ IPA เป็นเบียร์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งของแพลตฟอร์มนี้มาโดยตลอด เพราะด้วยความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับความนิยมชมชอบ อาหารรสจัดจ้านของคนไทย จึงทำให้เบียรประเภทนี้ ครองตลาดคราฟเบียร์มาเป็นระยะเวลานาน

Lager

     ในหมวดของเบียร์สไตล์ Lager จะเป็นเบียร์ที่ลักษณะคล้ายกับเบียร์ตลาดในบ้านเรา แต่อาจจะมีลูกเล่นมากกว่านิดหน่อย ก็ขึ้นอยู่กับความ creative ของ brewer ผู้สร้างสรรค์ผลงาน บางคนก็เพิ่ม hops เข้าไปนิด บางคนก็เพิ่มกลิ่น malt เข้าไปหน่อย ด้วยเอกลักษณ์ที่ ดื่มง่าย จึงเป็นอะไรที่น่าลองไม่แพ้กัน

     เบียร์ตระกูลลาเกอร์ก็มีหลายประเภท คือ Pilsner บ้าง Kolsch บ้าง หรืออาจจะเป็นตัวอื่นๆ อย่างเช่น american pale lager ก็มีเช่นกัน brewer บางท่านอาจจะทำ IPL นั่นก็คือ India Pale Lager ดูภายนอกเหมือนลาเกอร์ทั่วไป แต่พอดมแล้วชิมเท่านั้นแหละครับ มันคือรสชาติของ IPA ทั้งหมด เป็นเบียร์ที่มีความ divergent น่าดูเลยล่ะครับ

Mead

     หมีด คือ คราฟเบียร์ ประเภทหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ข้าวบาร์เลย์ในการผลิต แต่ใช้น้ำผึ้งธรรมชาติมาผสมกับน้ำ จากนั้นก็ปล่อยให้ยีสต์กิน ซึ่งเป็นยีสต์เฉพาะของหมีด เพราะฉะนั้นจะได้กลิ่นเกสรดอกไม้ ตามชนิดของดอกไม้ ที่ผึ้งเหล่านั้นได้ไปเก็บน้ำหวานมา มีความซ่าคล้าย sparkling wine ดื่มแล้วสดชื่น สดใส เหมาะกับสุภาพสตรีมากๆครับ

คราฟเบียร์ สไตล์ Pale Ale

     เบียร์ในหมวดนี้จัดว่าเป็นเบียร์เริ่มต้น เพื่อที่จะเปิดประตูไปสู่เบียร์ที่แรงขึ้นในอนาคต เป็นเบียร์ที่เริ่ม มีกลิ่นฮอปส์นิดหน่อย สีอาจจะจืด บางยี่ห้อก็มีกลิ่นคาราเมล แอลกอฮอล์จะอยู่ที่ประมาณ 5.0% เทียบเท่ากับเบียร์ตลาดทั่วไป นับว่าเป็นจุดกึ่งกลางของ Lager กับ IPA พอดีเลยนะครับ ทั้งในเรื่องของความ balance รสชาติและกลิ่น ยังไงก็ลองติดไม้ติดมือกันไปสักขวดนะครับ

คราฟเบียร์ สไตล์ Saison

     เซซอง เป็นเบียร์ที่มีถิ่นกำเนิดจากเบลเยี่ยม เอกลักษณ์ก็คือ จะมีสีเหลืองทอง มีรสชาติของยีสต์ มีรสชาติของเครื่องเทศและสมุนไพร มีรสผลไม้ มีรสฮอปส์บางๆ ดื่มไม่ยาก สดชื่นพอสมควร ส่วนทางด้านอเมริกานั้น ก็จะมีอีกชื่อนึง นั่นก็คือ Farmhouse Ale แต่เอกลักษณ์ของทางอเมริกากับทางยุโรปจะแตกต่างกันพอสมควรนะครับ พูดง่ายๆก็คือ ทางฝั่งอเมริกาอาจจะเจอกลิ่นฮอปส์แรงๆจาก เซซอง ก็เป็นได้

Wheat Beer

     เบียร์ในหมวดนี้จะเป็นเบียร์ที่ทำจากข้าวสาลี หรือมีอัตราส่วนของข้าวสาลีสูง ในการหมักจะใช่ยีสต์เฉพาะทาง ที่ให้กลิ่นได้ 2 แบบ ก็คือ กลิ่นกล้วยกับกลิ่นกานพลู บางยี่ห้อก็มาทั้งสองกลิ่นผสมกัน บอดี้จะหนาแน่น แอลกอฮอล์มีได้หลายช่วง ถ้ามีคำว่า Bock ลงท้ายมักจะแอลกอฮอล์สูง สีขุ่น ดื่มลื่น ไม่ขม บางยี่ห้อมีกลิ่นเครื่องเทศ

เบียร์ที่มีรสเปรี้ยว

     มันก็จะมีเบียร์บางประเภทที่เราต้องตกใจเนื่องจากมันช่างเหมือนเบียร์ที่ผสมนมเปรี้ยวอะไรเช่นนี้ เมื่อมนุษย์เราเดินทางมาถึงความเบื่อหน่ายกับรสชาติที่ปกติสุข ก็ต้องสรรหาอะไรแปลกๆ ใช่แล้วล่ะครับ เบียร์เปรี้ยวยังไงล่ะ ก็มีพวก Lambic, Flander, Sour Ale เป็นต้น โดยเบียร์ที่มีรสเปรี้ยวจำเป็นต้องใช้ Lactobacillus ในการหมักเช่นเดียวกับนมเปรี้ยวนั่นเอง

Hybrid Beer

     เป็นเบียร์ที่ไม่ได้เจาะจงสไตล์ไหนเป็นพิเศษ กล่าวง่ายๆก็คือ brewer อยากจะใส่วัตถุดิบที่มีความพิเศษลงไป เพื่อให้ไม่ซ้ำและจำเจ สร้างความตื่นเต้นใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งอาจจะมี base เป็นเบียร์ในสไตล์ต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น บางยี่ห้อเพิ่มผลไม้สดเข้าไป บางยี่ห้อเพิ่มข้าวสายพันธุ์พิเศษเข้าไป ก็เป็นอะไรที่น่าลองเหมือนกันนะครับ

     ต้องกราบขอโทษผู้อ่านทุกท่านด้วยนะครับ ที่ผมใช้คำผิดทั้งหน้าเลย เพราะติดข้อจำกัดทางด้านเทคนิคนิดหน่อยครับ นั่นก็คือคำว่า "คราฟเบียร์" ถ้าจะให้ถูกต้องเขียนว่า "คราฟต์เบียร์" หากลูกค้าท่านใดสนใจในรายละเอียดเชิงลึก เกี่ยวกับเบียร์และการทำเบียร์ ที่เบียร์สปอต เรามีบทความให้อ่านเสริมความรู้กันเยอะเลยละครับ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ บทความเกี่ยวกับเบียร์