เหล้าบ๊วย วิธีทำเหล้าบ๊วยเกาหลี และ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง วิธีการหมักไวน์น้ำผึ้ง

เหล้าบ๊วย

การทำ เหล้าบ๊วย และ ไวน์น้ำผึ้ง หรือ Mead

     เหล้าบ๊วย เป็นเครื่องดื่มของชาวเอเชียที่มีมาอย่างช้านาน ใช้อุปกรณืในการทำน้อย ทำง่าย ดื่มอร่อย มีกลิ่นที่หอม รสหวานนิดๆ ออกเปรี้ยวหน่อยๆ แต่สิ่งที่ต้องแลกก็คือระยะเวลาในการรอคอยที่นานพอสมควร นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเหล้าบ๊วย Choya หรือยี่ห้อต่างๆจึงมีราคาค่อนข้างสูง

     Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง เป็นเครื่องดื่มที่มาเป็นพันๆปี ตามประวัติคือไม่สามารถหาจุดกำเนิดได้ เพราะมีหลักฐานการดื่มอยู่ทุกเชื้อชาติ ทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่มนุษย์ยังออกล่าสัตว์แบบ hunter gatherer หรือจะเป็น Viking จนกระทั่งยุคเกษตรกรรมและยุคเครื่องปั้นดินเผา ก็มีหลักฐานเกี่ยวกับการดื่ม Mead แทบทั้งสิ้น ด้วยความที่มันทำง่าย มันจึงเป็นเครื่องดื่มที่น่าสนใจ

สารบัญ

1.เรื่องราวของเหล้าบ๊วย
2.อุปกรณ์ในการทำเหล้าบ๊วย
3.ลงมือทำเหล้าบ๊วย
4.เรื่องราวของ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง
5.อุปกรณ์ในการทำ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง
6.ลงมือทำ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง
7.ความพิเศษของ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง
8.สรุป

1.เรื่องราวของ เหล้าบ๊วย

     ความยากของ เหล้าบ๊วย อยู่ที่การหาบ๊วยสดนี่แหละ เพราะบ๊วยเป็นผลไม้ที่ชอบอากาศเย็น มักจะมีที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แต่ก็มีที่ไทยเหมือนกันนะ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เชียงราย เชียงใหม่ แต่ลูกจะเล็กนิดหน่อย ขนาดน่าจะประมาณเหรียญ 5 บาทเห็นจะได้ และที่สำคัญ ลูกบ๊วยสดจะมีเพียงแค่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์กับมีนาคมของทุกปีเท่านั้น อีกสิ่งนึงที่หายากไม่แพ้กับบ๊วยสดนั่นก็คือ เหล้าที่จะเอามาทำนี่แหละ เพราะคนแย่งกันซื้อมากๆเลย 555

2.อุปกรณ์ในการทำ เหล้าบ๊วย

     การทำเหล้าบ๊วย จะใช้ของอยู่ 3 สิ่งด้วยกัน นั่นก็คือ

  1. บ๊วยสด 1 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลกรวด 0.5 กิโลกรัม (หวานพอดีๆ)
  3. เหล้าเหยี่ยวเงิน 3 กลม (ประมาณ 2 ลิตร)

     เหล้าจริงๆจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ผมแนะนำเหยี่ยวเงิน เพราะว่าเมื่อดองเหล้าบ๊วยออกมาแล้วกลิ่นเหล้ามันสวย กลิ่นไม่บาดคอบาดจมูก แอลกอฮอล์ก็แรงพอดีๆ ราคาก็พอใช้ได้ไม่แพงมาก และอีกหนึ่งสิ่งก็คือโหลแก้วสำหรับดองเหล้าหรือถังหมักอะไรก็ได้พร้อมฝาปิดแค่นั้นเอง ตามไปดูภาพด้านล่างกันเลย

ภาพของลูกบ๊วยสด

3.ลงมือทำ เหล้าบ๊วย

     เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับทำเหล้าบ๊วยครบแล้ว ก็ไปลงมือตามขั้นตอนด้านล่างกันเลย

ขั้นตอนที่ 1
     เริ่มต้นจากนำบ๊วยสดแช่น้ำไว้สัก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ดินและสิ่งสกปรกออกจาตัวบ๊วยก่อน

ขั้นตอนที่ 2
     ใช้ไม้ลูกชิ้นหรืออะไรก็ได้แคะขั้วดำๆออก ทำให้ครบทุกลูก เพราะเหล้ามันจะได้ซึมเข้าไปทางนี้แหละ บางคนก็อาจจะจิ้มให้พรุนรอบลูกบ๊วยเลยก็ได้ แต่ผมคิดว่ามันเหมือนกันประกอบกับขี้เกียจ เอาแค่นี้ก็พอ แหะๆ    

ขั้นตอนที่ 3
     นำบ๊วยไปจัดเรียงในถังหมัก แล้ววางน้ำตาลกรวดลงไปเลย

ขั้นตอนที่ 4
     เทเหล้าลงไปเลย เอาให้ท่วมจากนั้นปิดฝาไว้ ระยะเวลาการรอคือ 1 ปี ก็เปิดกินได้เลย รับรองเมาแน่นอน อร่อยด้วย หอมๆเลยนะ

4.เรื่องราวของ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง

     Mead เป็นเครื่องดื่มที่ทำโคตรง่ายไม่แพ้กับเหล้าบ๊วยเลย อุปกรณ์ก็น้อย ไม่ต้องใส่ทั้ง มอลต์ และ ฮอปส์ แต่ระยะเวลาการรอคอยจะน้อยกว่าเหล้าบ๊วยหลายเท่าตัว และที่สำคัญมันมีความพิเศษของ Mead อยู่ ไว้เดี๋ยวผมค่อยบอกในหัวข้อท้ายละกัน แต่สำหรับหัวข้อนี้มาดูวิธีการทำกันก่อน เพราะ Mead นั้นใช้น้ำผึ้งในการหมัก สุดแสนจะหาง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และก็หมักด้วยยีสต์ทำ Mead โดยเฉพาะ ราคาก็ไม่แพง ปกติจะมีแอลกอฮอล์อยู่ที่ระดับ 3.5% – 20% แล้วแต่อารมณ์ของคนทำ ว่าอยากเมาแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย

5.อุปกรณ์ในการทำ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง

     การทำ Mead จะมีอุปกรณ์ 5 รายการดังต่อไปนี้

  1. น้ำผึ้งดอยคำ 6 ขวดใหญ่
  2. ยีสต์ สำหรับทำ Mead 1 ซอง
  3. น้ำเปล่า 16 ลิตร
  4. ถังหมักพร้อมกับ Air Lock
  5. ไม้พายสำหรับคน (ใช้อะไรคนก็ได้)

     สิ่งที่เรากำลังจะทำนี้คือ Mead ที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 6% หากว่าคุณอยากได้แรงกว่านี้ก็เติมน้ำผึ้งเข้าไปอีกก็ได้ ไม่มีปัญหา

6.ลงมือทำ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง

     หากคุณเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

ขั้นตอนที่ 1
     เตรียมน้ำ 16 ลิตรใส่ถังหมักไว้ จากนั้นทำการเทน้ำผึ้งทั้งหมด 6 ขวดลงในน้ำ ใช้ไม้พายหรืออุปกรณืใดก็ได้คนจนน้ำผึ้งละลายกับน้ำ ระวังอย่าให้น้ำผึ้งนอนอยู่ที่ก้นถัง

ขั้นตอนที่ 2
     เมื่อคนจนน้ำผึ้งละลายหมดแล้ว ก็ฉีกซองยีสต์ แล้วเทโรยที่ผิวน้ำแบบกระจายๆ เพียงเท่านี้ก็เข้าตู้เย็นอุณภูมิ 20 องศา ได้เลย ระยะเวลาการหมักก็คือ 2 เดือน หรือ 8 สัปดาห์ เมื่อหมักครบแล้ว ต้องได้ Mead ที่ใส หอมกลิ่นน้ำผึ้ง พร้อมดื่มรับประทานแล้วจร้า

6.ความพิเศษของ Mead หรือ ไวน์น้ำผึ้ง

     Mead เป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นอ่อน สีใส จึงทำให้เราสามารถเอาไปปรุงแต่งได้อีกเยอะเลย เช่นการใส่ผลไม้ ใส่เครื่องเทศ ใส่ดอกไม้ ใส่เห็ด ใส่ไม่โอ๊คชิปและอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มเติมความอร่อย เติมสีสัน เติมรสชาติที่จะทำให้ Mead ธรรมดาของคุณ มีความพิเศษขึ้นมาอีกระดับนึง ขั้นตอนการเติมผลไม้ให้กับ Mead ก็คือช่วงที่หมักครบแล้ว สามารถเอาผลไม้ใส่ถังหมัก แล้วทำการหมักต่ออีก 7 วัน เพียงเท่านี้ก็จะได้สีสันสดใสเหมือนภาพด้านบนแล้ว

ด้านบน คือภาพของการใส่ Strawberry ลงไปใน Mead

เราสามารถเลือกใส่ได้ตามใจเราเลย

และถ้าหากท่านใดสนใจชมวิธีการทำ Mead แบบละเอียดสามารถดูได้ที่คลิปด้านบนเลยครับ (แต่วิธีการอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่หลักการเดียวกัน)

คราฟเบียร์

ร้านขายเบียร์ออนไลน์ ที่ดีที่สุดในประเทศ ต้อง “เบียร์สปอต” เท่านั้น!

เลือกซื้อเลย!

8.สรุปเรื่องของ เหล้าบ๊วย และ Mead

     ทั้ง Mead และ เหล้าบ๊วย เป็นเครื่องดื่มที่ทำง่ายทั้งคู่ ใช้อุปกรณ์น้อย ทำง่ายกว่าเบียร์เยอะเลย แต่ก็ต้องการเวลาการหมักนานกว่าเบียร์ เหล้าบ๊วยจะหมัก 1 ปี ส่วน Mead จะหมัก 2 เดือน แต่ Mead เราสามารถใส่ส่วนผสมพิเศษลงไป เพื่อเพิ่มรสชาติและความน่าสนใจให้กับสินค้าของเราได้ ก็อยู่ที่ทุกท่านเลยนะครับ ว่าอยากจะเลือกทำสิ่งไหน ชอบอะไรมากกว่ากันก็ลุยไปเลยจร้า