Craft Beer คืออะไร

     Craft Beer ก็คือ เบียร์ที่ผลิตในโรงผลิตแบบเล็กๆ มีความพิถีพิถันในการผลิต มีความหลากหลายทางรสชาติ มีความแตกต่างจากเบียร์อุตสาหกรรมใหญ่อย่างเห็นได้ชัด โดยผู้ผลิตเบียร์ จะไม่นิยมผลิตครั้งละมากๆ เนื่องจากตัวเบียร์มักจะเสื่อมคุณภาพไวหากเก็บไว้นาน ยิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ยิ่งอร่อย ยิ่งรสชาติดี ไม่มีการกรองยีสต์ออก เราจะสังเกตุเห็นยีสต์ที่อยู่บริเวณก้นขวดได้อย่างชัดเจน
     ในวันนี้เราจะมาทำการเจาะลึกลงไปอีกนิดนึง ว่าเบียร์ทั้งหมดในโลกนั้น หลักๆแล้ว มันมีกี่ประเภท มีกี่แบบ ต้นกำเนิดมาจากที่ใด ทำมาจากอะไร รสชาติและกลิ่น มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างไร

สารบัญ

1.เบียร์ที่ทำมาจากข้าวสาลี
2.เบียร์ที่ทำจากข้าวบาร์เลย์ประเภท Pale Ale
3.เบียร์ที่ทำจากข้าวบาร์เลย์ประเภท India Pale Ale
4.เบียร์ประเภท Lager
5.เบียร์ที่มีสีดำ หรือพวก Dark Beer ทั้งหลาย
6.เบียร์กลิ่นข้าวบาร์เลย์
7.เบียร์ที่มีรสเปรี้ยว
8.สรุป

1. Craft Beer ที่ทำมาจากข้าวสาลี

     โดยเบียร์ประเภทนี้จะต้องมีส่วนประกอบของข้าวสาลี หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Wheat ซึ่งเราก็จะคุ้นเคยกับคำนี้แน่นอน นั่นก็คือ Wheat Beer นั่นเอง เป็นข้าวที่ไม่มีเปลือก ถ้าเราดูจากลักษณะภายนอกก็จะรู้สึกแปลกตา เพราะมันดูไม่เหมือนข้าวเอาซะเลย ซึ่งตัวข้าวสาลีเองจะมีความหวานและโปรตีนมากกว่าข้าวบาร์เลย์ เพราะฉะนั้นเอกลักษณ์ของเบียร์ที่ทำมาจากข้าวสาลีจึงมีความหวาน ขุ่น ขมุกขมัว รสนุ่มนวล บอดี้หนาหนักแน่นเหมือนเติมแป้งมันเข้าไป ขมน้อย กลิ่นกล้วยหรือกานพลู (มันคือกลิ่นเอกลักษณ์ของยีสต์)

     ข้าวสาลีเป็นข้าวที่ปลูกเยอะมากในโซนยุโรป ดังนั้นเบียร์ประเภทนี้จึงมีถิ่นกำเนิดมาจากยุโรปนั่นเอง เช่น เยอรมัน เบลเยี่ยม เป็นต้น และยี่ห้อเบียร์ข้าวสาลีที่บ้านเรารู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ Hoegaarden ยังไงล่ะ กับอีกตัวนึงที่เราเห็นใน 7-11 ก็คือเบียร์ Snowy Weizen นั่นแหละ ส่วนเบียร์ข้าวสาลีเรายังแบ่งชนิดย่อยๆได้อีกหลายแบบดังต่อไปนี้

• Weizen
• Hefeweizen
• Weizenbock
• Witbier
• Weisse Beer
• White Ale หรือ White beer

     ส่วนใหญ่ถ้าเป็นคราฟต์เบียร์ที่ขายใน 7-11 หลักๆก็จะเป็น wheat beer นี่แหละครับ เพราะเข้าถึงง่าย ไม่ขม นุ่มละมุน ไม่ว่าจะบ้านนอกเบียร์หรือเจ้าใหญ่หลายเจ้าที่พยายามทำออกมา

2. Craft Beer ประเภท Pale Ale

     ถ้าให้พูดถึงประเภทของเบียร์ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมมาก ก็จะกล่าวถึงเบียร์ประเภท Pale Ale แน่นอน (อ่านว่า เพล เอล ไม่ใช่ พาเล อะเล อะไรทั้งนั้น) ซึ่งเป็นเบียร์ที่ฮอตฮิตมากในกลุ่มคนอเมริกันเนื่องจากอุปนิสัยผู้คนแถบนั้นชอบเบียร์ที่มีกลิ่นรุนแรง ถึงลูกถึงคน เบียร์ประเภทนี้จึงเป็นที่โปรดปราน วัตถุดิบหลักก็คือทำมาจากข้าวบาร์เลย์ พลาดไม่ได้ที่จะขยับความแรงของแอลกอฮอล์มาอยู่ที่ระดับ 5.0% สีเริ่มเข้มขึ้นมากเป็นเหลืองๆส้มๆ ขมขึ้นมาอีกนิด เนื่องจากใส่ hops หนักขึ้น รสชาติเริ่มซับซ้อนซ่อนเงื่อน

     ตัวอย่างของเบียร์สไตล์ Pale Ale ยี่ห้อของไทย ก็พอมีบ้าง เช่น ชาละวัน, วาฬ, Yaksa เป็นต้น ถ้าอยากได้ใน 7-11 ก็จะมี กรุงเทพ golden ale ครับ

3. Craft Beer ประเภท India Pale Ale

     เมื่อรู้จัก Pale Ale แล้วมันก็ต้องย่างก้าวเข้ามาหา Craft Beer ประเภท India Pale Ale หรือที่เรามักเรียกติดปากว่า IPA (ไอพีเอ) บางคนก็เรียก อิปป้า ก็แล้วแต่ ซึ่งเบียร์ประเภทนี้ถูกพัฒนามาจาก Pale Ale ธรรมดา เพียงแค่อัดแอลกอฮอล์ให้สูงขึ้น ไม่มีต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน เพิ่มสีให้เข้มขึ้น เติม hops เพิ่มอีก เอาให้หนัก เอาให้รสจัด ขมปี๊ด กลิ่นแรงชนิดที่ว่า จินตนาการกลิ่นได้หลากหลายชนิด บางตัวก็ทำกลิ่นผลไม้ บางตัวก็กลิ่นไม้สน บางตัวก็กลิ่น citrus คล้ายกลิ่นส้ม อะไรประมาณนั้น

     เรียกได้ว่า IPA คือเบียร์เอาใจคนคอแข็งโดยเฉพาะ ถ้าคุณอยากลอง ก็มีหลายยี่ห้อดังๆ ระดับโลก อย่างเช่น

• Deschutes Fresh Squeezed IPA
• Stone IPA
• Ballast Point Sculpin IPA
• Brewdog Punk IPA

     เบียร์ IPA ยังไม่เห็นมีจำหน่ายที่ 7-11 นะครับ แต่ก็พอมีจำหน่ายที่ห้าง super market ทั่วไป แถมมีหลายยี่ห้อซะด้วย

4.เบียร์ประเภท Lager

     เบียร์ Lager คือเบียร์ที่พบอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ยี่ห้อที่คุ้นเคยกันดีก็พวกเหล่าบรรดาสิงสาราสัตว์ทั้งหลาย เนื่องจากคุณสมบัติของมันคือ ใส สีอ่อน บอดี้ light เหมือนน้ำเปล่า กลิ่น hops ไม่มี อาจมีกลิ่นข้าวอยู่บ้าง แถมขมน้อยอีกตะหาก เวลาดื่มจึงสดชื่น และที่สำคัญ ใส่ hops น้อยมาก แถมเก็บได้นาน เบียร์ไม่เรื่องมาก จะเก็บในที่ร้อนๆ ก็ได้ เย็นๆก็ได้ ขนส่งง่าย ไม่เหมือนพวก IPA 

เบียร์ที่คนไทยดื่มกันมานานแสนนานก็คือ ลาเกอร์ นั่นเอง

     เบียร์ตระกูลลาเกอร์ก็มีหลายประเภท คือ Pilsner บ้าง Kolsch บ้าง ถ้าจะให้จำกัดความของ เบียร์ลาเกอร์ จริงๆละก็ เข้าไปอ่านได้เลย แต่ถ้าคุณอยากดื่มเบียร์แบบได้มิติ กับมุมมองใหม่ๆมากขึ้น ให้เข้าไปอ่านเรื่องนี้ก่อนเลยครับ การดื่มเบียร์ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

5.เบียร์ดำหรือ Dark Beer

     เบียร์ดำที่พวกเราคุ้นเคยกันดีก็คือยี่ห้อ Guinness นั่นเอง โดยที่เบียร์จำพวกนี้จะใช้ข้าวบาร์เลย์ที่นำไปคั่วจนมีสีเข้ม น้ำเบียร์จึงมีสีดำ ได้กลิ่นไหม้ กลิ่นช๊อกโกแลต กลิ่นกาแฟ เป็นหลัก รสชาติเข้มข้น บางตัวแอลกอฮอล์สูงลิ่วแตะระดับ 9% หรือบางครั้งทะลุไปถึง 12% ก็มีให้เห็น

     เบียร์จำพวก Dark Beer ก็จะมีอยู่มากมายหลายประเภท เช่น

• Brown Ale
• Stout
• Porter
• Dunkel (จริงๆแล้วเป็นลูกครึ่งกับ Lager ด้วยแหละ)

     เบียร์สไตล์นี้ยังไม่มีใน 7-11 นะครับ แต่ก็พอหาได้ที่ super market ทั่วไป

6.Craft beer ที่มีกลิ่นข้าวบาร์เลย์

     เบียร์ที่หนักไปทางกลิ่นข้าวบาร์เลย์ ก็คือเบียร์ที่เน้นข้าวอย่างเดียว ใส่ข้าวสายพันธุ์พิเศษเข้าไปเพื่อแต่งกลิ่น อาทิเช่นข้าว aroma กลิ่นที่ได้ก็จะออกไปทางนวลๆ อาจติดหวานนิดหน่อย เพราะไม่มีความขมของ hops มากวนใจ เบียร์แบบนี้มีมากมายที่อังกฤษ เนื่องจากผู้คนที่นั่นไม่ชอบเบียร์ที่มีรสจัดจ้าน

     เบียร์ที่มีกลิ่นมอลต์หนักๆ ก็จะเป็น English Bitter หรือ Bitter บางคนก็เรียก ESB บางคนก็เรียก Best Bitter ก็ตามแต่เลย ถ้าคุณสังเกตุดีๆมันมีคำว่า Bitter อยู่ในประโยคแต่มันไม่ได้ขมตามชื่อของมัน (เหมือนฝรั่งบอกเผ็ดแต่คนไทยบอกไม่เผ็ดอ่ะแหละ) ยี่ห้อที่มีในไทยก็พวก Fuller’s ESB

     และมีอีกตัวนึงที่ค่อนข้างดังทางฝั่ง Australia นั่นก็คือ Amber ซึ่งสีออกทองแดงเลย สวยดี กลิ่นข้าวเด่นชัดมาก ยี่ห้อดังๆก็ Boont Amber Ale จากค่าย Anderson Valley

     ตัวที่มีขายใน 7-11 ก็จะมี good boy cream ale ของบ้านนอกเบียร์นะครับ ซึ่งจะมีกลิ่นข้าวโพดประกอบกับกลิ่นมอลต์ค่อนข้างสวยงามพอสมควร และก็อีกตัวนึงคือ Cheer riceberry  ซึ่งจะกลิ่นข้าวไรซ์เบอร์รี่ชัดเจน สามารถไปหาลองกันได้

7.เบียร์ที่มีรสเปรี้ยว

     มันก็จะมีเบียร์บางประเภทที่เราต้องตกใจเนื่องจากมันช่างเหมือนเบียร์ที่ผสมนมเปรี้ยวอะไรเช่นนี้ เมื่อมนุษย์เราเดินทางมาถึงความเบื่อหน่ายกับรสชาติที่ปกติสุข ก็ต้องสรรหาอะไรแปลกๆ ใช่แล้วล่ะครับ เบียร์เปรี้ยวยังไงล่ะ ก็มีพวก Lambic, Flander, Sour Ale เป็นต้น ซึ่งตัวที่ (เค้าบอกว่าเด็ด) ก็จะมี duchesse de bourgogne ซึ่งมีกลิ่นคล้ายๆกับซอสไก่งวงยังไงยังงั้น ก็ลองไปหาลองดูนะครับ (ไม่มีใน 7-11 นะครับและหายากพอสมควร)

8.สรุป เรื่องของ Craft Beer

     เห็นมั้ยครับ ว่าเรื่องราวของเบียร์นั้นมันมีอะไรมากอยู่พอสมควร ซึ่งในความคิดส่วนตัวของผม ก็คิดว่า Craft Beer มันก็มีเรื่องราวคล้ายๆกับไวน์เลย อาจจะคนบริบทกัน แต่ก็มีอะไรให้ศึกษา จริงๆแล้วเบียร์ในโลกนี้มีมากมายอีกหลายชนิด ถ้าจะให้เล่าจนหมดก็คงไม่มีใครอ่านบทความนี้แน่ๆ 

     หากคุณสนใจที่จะทำเบียร์ดื่มเอง อยากทราบว่ามีวิธีการทำอย่างไร อุปกรณ์มีอะไรบ้าง สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ครับ วิธีการทำเบียร์

     อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็คงมองเห็นใช่มั้ยว่าเบียร์ใน 7-11 นั้นมีจำนวนน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับเบียร์ที่มีตามหัวมุมต่างๆของโลก ผมคิดว่าควรหามาลอง เพราะของมันต้องโดนอ่ะนะครับ ลองเปิดใจดื่มเบียร์ที่หลากหลาย คุณอาจจะเปิดประตูไปสู่โลกใหม่ก็ได้นะครับ ดื่มแบบรับผิดชอบกันนะครับ